วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูงพร้อมด้วย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) และ ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร ร่วมแถลงข่าวเปิดหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 4 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการเกษตร อันดับ 1 ของประเทศโดยมีผู้บริหารระดับสูงผู้เข้าร่วม
ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความรับผิดชอบต่อ ประเทศ ต่อพี่น้องประชาชนคนไทย โดยให้ความสำคัญที่จะพัฒนาเรื่องบุคลากรเทคโนโลยี โครงสร้างและระบบการบริหารงานในภาคการเกษตรทั้งระบบ จึงเห็นควรจะมีสถาบันในการฝึกอบรมและเป็นที่ประสานงานกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน ภาคการเกษตร เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งนำวิทยาการด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม มาบูรณาการต่อยอดในการทำงานซึ่งได้ดำเนินการผ่านมา 3 รุ่นแล้วผลตอบรับเป็นที่น่าพึงพอใจมีผู้นำเกษตรกรเข้าร่วมอบรมและสามารถขยายผลสร้างเครือข่ายได้จริง และในวันที่ 14 ก.ค. นี้จะมีการเปิดหลักสูตรรุ่นที่ 4 อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ หากการเกษตรจะมุ่งเน้นแค่การผลิตอย่างเดียว จะไม่ตอบโจทย์การพัฒนา ไม่สามารถก้าวทันโลกที่หมุนเร็วในยุคดิจิทัล 5G ซึ่งกระทรวงเดียวหรือหน่วยงานเดียวไม่สามารถทำงานได้จึงต้องบูรณาการร่วมมือภาคส่วนต่างๆ โดยมีพี่เลี้ยงเป็นภาครัฐให้ความรู้แก่ เอกชน ภาคการเกษตร ระดับวิสาหกิจชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน โดยมั่นใจว่า หลักสูตรดังกล่าวจะเป็นส่วนผลักดันสำคัญที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคการเกษตร ของประเทศไทย และจะช่วยยกระดับภาคการเกษตรของไทยเราก้าวไปข้างหน้าและ วกส.จะสนับสนุนให้ภาคการเกษตรเติบโตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง มั่นคง จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงภาคการเกษตรอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการนำงานวิจัย และเทคโนโลยีมาช่วยเสริมการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขณะที่นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการหลักสูตร วกส. กล่าวว่า หลักสูตรวกส. มีวัตถุประสงค์มุ่งหวังที่จะพัฒนาผู้บริหารระดับสูงในวงการเกษตรทั่วประเทศ และด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยกันเข้ามาขับเคลื่อนภาคการเกษตรทุกมิติ ซึ่งประสบความสำเร็จในทุกรุ่นที่ มีการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารที่สำคัญหลักสูตรได้นำข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยน ระหว่างกันในผู้บริหารสามารถนำไป ปรับเสนอเป็นนโยบายและแผนของภาคการเกษตรต่อไป โดยเฉพาะการปรับข้อจำกัดระเบียบราชการที่เป็นอุปสรรคของภาคเอกชนสามารถนำมาเสนอแลกเปลี่ยนเพื่อขับเคลื่อน พัฒนาภาคการเกษตรของบ้านเราให้เป็นรูปธรรม